ชุดตรวจ NAT ต้องบอกก่อนว่าในปัจจุบัน การตรวจหาเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ จะมีทั้งหมด 2 แบบ คือ การตรวจแบบน้ำลาย และการตรวจแบบ ตรวจด้วยเลือด ซึ่งทั้ง 2 วิธีการตรวจนี้ เป็นที่ยอมรับระดับสากลว่า เป็นการตรวจ ที่ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ และมีความแม่นยำ ในการตรวจ ทำให้ผู้ที่ใช้งาน มั่นใจได้ว่า การตรวจหาเชื้อเอชไอวี ด้วยเลือดนั้น มีความปลอดภัย

 

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ยังมีวิธีการตรวจอีกวิธีหนึ่ง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับแพทย์ หรือผู้ตรวจ ซึ่งนั่นก็คือวิธีการตรวจแบบ NAT วิธีนี้เป็นนวัตกรรมสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยง และผู้ที่มีความกังวลใจหลังจากไปมีความเสี่ยงมา

โดยวิธีการตรวจนี้จะมีความไวในการตรวจ ปลอดภัย และแม่นยำมากกว่าวิธีเดิม แต่วิธีการนี้ สามารถเข้ารับการตรวจ ได้ที่โรงพยาบาล บางแห่งเท่านั้น เพราะการตรวจแบบ NAT  เป็นวิธีตรวจ ที่ต้องใช้ ความชำนาญสูง ผู้ที่มี ความเสี่ยงต่อ การติดเชื้อ HIV

หากเข้ารับ การตรวจด้วยวิธี NAT จะสามารถยืนยัน ผลตรวจ ได้ที่หนึ่ง สัปดาห์ หลังการตรวจ โดยที่ไม่จำเป็น ต้องรอให้ ร่างกายสร้างภูมิต้าน หรือรอ ให้ผ่านช่วงระยะฟักตัวไปก่อน ซึ่งวิธีการตรวจหาเชื้อเอชไอวี ที่ผ่านมา

จะเป็นวิธีการตรวจแบบตรวจหาแอนติบอดี หรือ การตรวจหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อที่ร่างกายได้สร้างขึ้นมา  ต้องบอกไว้ก่อนว่า ชุดตรวจ NAT ไม่มี มีเพียงวิธีการตรวจ NAT ตามที่กล่าวมา ซึ่งต้องเก็บตัวอย่าง ของผู้มีความเสี่ยง ไปทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่อไป

 

ดังนั้น ร่างกาย จำเป็นที่ จะต้องใช้ ระยะเวลา ในการผลิต แอนติบอดี ขึ้นมา เพื่อกำจัด เชื้อไวรัส หรือสร้าง ภูมิคุ้มกัน เพื่อต่อสู้ กับเชื้อ จึงอาจจะต้อง รอประมาณ 21 วัน ขึ้นไป จึงจะสามารถ ตรวจได้

 

แต่ทั้งนี้ วิธีการตรวจ NAT เป็นวิธีการตรวจเลือด ที่มีความรวดเร็ว ในการตรวจมากกว่า วิธีเดิม หมายถึง สามารถที่ระยะเวลาเสี่ยงเร็วขึ้น สามารถตรวจได้ที่ 5-7 วันหลังเสี่ยง เพราะเป็นการตรวจหาเชื้อโดยตรง จึงไม่จำเป็น ที่จะต้องรอให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกัน ขึ้นมาก่อน

นอกจากนี้ การตรวจแบบ NAT นอกจากจะช่วยย่นระยะเวลา และ ยังทำให้เรารู้ตัวได้เร็ว ไม่ต้องรอ หมดกังวล เพราะหากรู้ผลตั้งแต่เนิ่น ๆ เราก็มีโอกาสในการรักษาได้เร็ว และลดอัตราการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้

ดังนั้น ถึงแม้ว่า วิธีการตรวจแบบ NAT จะไม่เป็น ที่นิยม เนื่องจากมีค่าใช้จ่าย ค่อนข้างสูง และต้องไป ตรวจที่ โรงพยาบาลเท่านั้น แต่ประโยชน์ ของการตรวจ ด้วยวิธีนี้ นอกจาก จะมีความแม่นยำ ในการตรวจแล้ว

ยังรวดเร็วกว่า การตรวจ แบบทั่วไป ที่สามารถ ตรวจหา แอนติบอดี ได้หลังเสี่ยง มาแล้ว 2-12 สัปดาห์

 

อย่างไรก็ตาม หากใครที่ไม่สะดวก เดินทางไปตรวจ ตามสถานพยาบาล และ ไม่สะดวกตรวจแบบ NAT เพราะมี ค่าใช้จ่ายสูง ปัจจุบันก็ได้มี ชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง วางจำหน่าย เพื่อเป็นอีกช่องทางหนึ่ง ที่ให้ผู้ได้รับความเสี่ยง

มาทำการ ตรวจคัดกรอง เบื้องต้น ด้วยตนเอง โดยชุดตรวจ จะมี ความปลอดภัย แม่นยำ และได้ มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับ ในระดับสากล เพื่อให้ ผู้ที่ใช้งาน สบายใจได้ ทั้งนี้ การเข้ารับ การตรวจ หลังจาก ได้รับ ความเสี่ยง มานับเป็น เรื่องที่ดี เพราะหาก ตรวจพบเชื้อ ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็มีโอกาส ในการรักษา ได้อย่าง ถูกต้อง และเหมาะสม