ชุดตรวจhiv เชื่อถือได้ไหม การเข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวี (HIV) หรือ เอดส์ (AIDS) เป็นเรื่องยากสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะเนื่องจากสมัยปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่มักจะมองคนที่มีเชื้อเอชไอวี ในทางที่ไม่ดี ระแวงว่าจะติดเชื้อหากอยู่ใกล้ เนื่องจากความรู้ในด้านเอชไอวียังคงเข้าไม่ถึงในหลาย ๆ ด้าน

ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวีนั้น จึงถูกมองอย่างแตกต่างกว่าการติดเชื้อด้วยโรคอื่น การติดเชื้อเอชไอวีจะนำไปสู่การถูกประนามว่าเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง และเป็นผู้ที่มีความประพฤติตนไม่เหมาะสมตามที่สังคมต้องการ

ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้คนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือผู้ป่วยติดเชื้อไม่กล้าที่จะเดินทางไปตรวจหาเชื้อเอชไอวีตามสถานพยาบาล หรือคลินิกต่าง ๆ เพราะอาจจะอายสายตาของคนอื่นที่มองว่าตนนั้นเป็นผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี

ดังนั้น การตรวจหาเชื้อเอชไอวีเองที่บ้านอาจจะมีความเป็นส่วนตัวสูงกว่าการไปตรวจตามสถานพยาบาล

 

ในปัจจุบันนี้ทาง อย. ไทย ได้เห็นถึงความยากลำบากของผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงได้ทำการปลอดล็อคให้มีการจำหน่ายชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเองตามร้านขาย

แต่ส่วนใหญ่นั้นเราจะพบเห็นจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ ร้านไหนจะมีคุณภาพหรือไม่มีคุณภาพ ให้ดูว่ามีเลขอย.ไทย หรือไม่

เหตุเพราะแบรนด์ชุดตรวจต่าง ๆ ในไทย ไม่ว่าจะตรวจโรคอะไรก็ตามนั้น จะต้องผ่านมาตรฐานโดยมีการรับรองโดยอย.ไทยก่อน และมีการออกเลขอย.ให้กับแบรนด์ชุดตรวจนั้น ๆ

หากพบว่าไม่มีเลขอย.ไทย ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าชุดตรวจนั้นมีคุณภาพหรือมาตรฐานเป็นไปตามที่ประเทศไทยกำหนด

 

ชุดตรวจ hiv เชื่อถือได้จริงหรือไม่?

ชุดตรวจhiv เชื่อถือได้ไหม หากเป็นการตรวจตามสถานพยาบาล แน่นอนว่าจะต้องเป็นชุดตรวจที่ได้รับการรับรองจากอย.ไทย แล้ว จึงสั่งซื้อและนำมาใช้กับผู้ป่วยในสถานพยาบาลได้ แต่หากเป็นการตรวจด้วยตนเอง ที่มีจำหน่ายอยู่ในช่องทางออนไลน์ ควรพิจารณาก่อนการสั่งซื้อ

  1. มีเลขอย. ไทย เป็นสิ่งสำคัญที่ควรเช็คดูก่อนการสั่งซื้อ โดยสามารถนำเลขอย.ไปตรวจได้ที่เว็บไซต์ของอย.ไทย
  2. ความแม่นยำสูง เป็นไปตามเกณฑ์กำหนดของอย.ไทย
  3. เลือกวิธีตรวจให้เหมาะสมกับระยะเวลาเสี่ยงที่ได้รับ เช่น หากเสี่ยงมาเกิน 21-30 วัน สามารถเลือกตรวจได้ทั้ง ชุดตรวจHIV Gen 3 หรือ Gen 4 หากเสี่ยงมาไม่ถึง 21-30 วัน แต่มากกว่า 14 วัน ก็สามารถใช้ชุดตรวจ Gen 4 ได้ หรือทางที่ดีขอคำแนะนำจากผู้ขาย

สิ่งสำคัญของการตรวจเอชไอวี คือ มีเลขอย.ไทย มีความแม่นยำสูง และควรเลือกวิธีตรวจให้หมาะสม กับระยะเวลาเสี่ยง ซึ่งจะช่วยให้ การตรวจนั้น น่าเชื่อถือมากขึ้น อีกทั้งควรปฏิบัติตามคู่มือการใช้งานอย่างเคร่งครัด ชุดตรวจที่มีคู่มือเป็นภาษาไทยจะช่วยให้เข้าใจวิธีการใช้งานมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากเข้ารับการตรวจในช่วงระยะเวลา ที่ไม่เหมาะสม ผลตรวจที่ ได้อาจเป็นลบ (ผลลบปลอม) แต่หากผู้ป่วยตรวจเอชไอวี ด้วยวิธีที่เหมาะสม กับชุดตรวจ ผลที่ได้จะให้ผลเกิน 99% หากใช้อย่างถูกวิธีตามที่บอกในคู่มือ

 

คำแนะนำเพิ่มเติม

สำหรับ การตรวจหาเชื้อเอชไอวี ด้วยวิธีหาภูมิคุ้มกัน ที่จำเพาะต่อเชื้อ (แอนติบอดีที่จำเพาะต่อเชื้อ anti-HIV) จะสามารถตรวจพบ ได้ใน ช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ ไปจนถึง 3 เดือน ซึ่งถือว่า เป็นช่วง ที่ร่างกายของเราได้ สร้างภูมิคุ้มกัน ในการ ต่อสู้กับเชื้อเอชไอวีแล้ว เมื่อทำการตรวจเลือด แบบแอนติบอดี ก็จะสามารถ ให้ผลตรวจออกมา เป็นบวกได้ ในกรณีติดเชื้อ

แต่อย่างไรก็ตาม ร่างกาย ของบางคน ก็อาจจะ ใช้ระยะเวลา ในการตรวจพบเชื้อ ช้ากว่า หรือเร็วกว่า ก็ได้ เพราะร่างกาย ของแต่ละคน ก็อาจ มีการตอบสนอง ต่อเชื้อ ไม่เท่ากัน หากตรวจ ครั้งแรกแล้ว ผลออกมาเป็นลบ  ให้ทำการตรวจซ้ำ อีกครั้งทุก ๆ 2 เดือน เพื่อความมั่นใจ หรือตรวจอีกครั้ง ที่หลัง 3 เดือน

 

หากถามว่าชุดตรวจเอชไอวีสามารถเชื่อถือได้หรือไม่ ปัจจุบันการตรวจหาเชื้อเอชไอวีสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งตรวจได้แม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น

เช่น วิธีการตรวจแบบ  NAT (Nucleic Acid Test) จะสามารถตรวจพบเชื้อเอชไอวีได้ใน 7 วัน สามารถเข้ารับการตรวจ ได้ที่คลีนิคนิรนาม และในส่วนของ การตรวจแบบ anti-HIV โดยใช้ชุดตรวจ Gen 4 จะสามารถตรวจพบเชื้อ ได้หลังการติดเชื้อประมาณ 14 วันขึ้นไป และชุดตรวจ Gen 3 จะสามารถตรวจพบเชื้อ ได้หลังการ ติดเชื้อประมาณ 21-30 วันขึ้นไป

ทั้งนี้ หากผู้ที่มีความเสี่ยง ควรเข้ารับการตรวจโดยเร็ว เพราะหากตรวจเจอ เชื้อตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะได้ เข้ารับการรักษา ได้ทันเวลา