Anti-TP คือ อะไร โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง ที่ถือว่ามีความร้ายแรงและน่ากลัวเป็นอย่างมาก โดยซิฟิลิสเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ทรีโพนีมา พัลลิดุม (Treponema Pallidum)

ที่โรคนี้มีความน่ากลัวเพราะ เชื้อจะไม่แสดงอาการให้เห็นได้ชัด แต่ก็สามารถติดต่อกันได้ หรืออาจเป็นเรื้อรังมากกว่า 2 ปี หากเข้ารับการรักษาให้หายแล้ว ก็มีโอกาสที่จะกลับมาเป็นใหม่ได้อีกด้วย เพราะโรคซิฟิลิสนั้น สามารถพบได้ราว 10-15% ของ

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด

การป้องกันโรคซิฟิลิสเบื้องต้น สามารถทำได้โดยการเข้ารับการตรวจเลือดเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุกับทางห้องปฏิบัติการ โดยมีหลากหลายวิธีในการตรวจ ซึ่งหลัก ๆ ที่นิยมใช้ในการตรวจจะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มคือ การตรวจแบบชนิดไม่เฉพาะเจาะจงต่อเชื้อซิฟิลิส และ การตรวจแบบเฉพาะเจาะจงต่อเชื้อซิฟิลิส

– การตรวจแบบไม่เฉพาะเจาะจงต่อเชื้อซิฟิลิส วิธีการตรวจนี้มักนิยมใช้เป็นการตรวจเพื่อคัดกรองเบื้องต้น ซึ่งจะเรียกวิธีการตรวจนี้ว่า RPR

– การตรวจแบบเฉพาะเจาะจงต่อเชื้อซิฟิลิส วิธีการตรวจนี้จะเป็นการตรวจที่มีความแม่นยำสูงเฉพาะโรคซิฟิลิสเท่านั้น แต่การตรวจนี้อาจจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ต้องอาศัยความชำนาญมากกว่าวิธีแรก แต่วิธีการตรวจแบบเฉพาะเจาะจงก็ถือว่ามีประโยชน์มากในการยืนยันการวินิจฉัยโรค ในกรณีที่โรคยังไม่มีการแสดงอาการให้เห็นอย่างชัดเจน โดยจะเรียกวิธีการตรวจนี้ว่า FTA-ABS


นอกจากนี้ โรคซิฟิลิส เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่มีสาเหตุ มาจากการติดเชื้อ Treponema Pallidum โดยเชื้อชนิดนี้ หากรับการตรวจด้วยวิธี Nucleic Acid Testing จะยังไม่สามารถ นำมาใช้ในการตรวจ ที่ห้องปฏิบัติการทั่วไปได้ แต่การตรวจซีโรโลยีจะถูกนำมาใช้ ในการวินิจฉัย และนำมาวิธีการรักษา โรคซิฟิลิสแทน โดยหลัก ๆ การทดสอบจะแบ่งออกเป็น 2 วิธี คือ

– การตรวจแบบใช้แอนติเจนไม่จำเพาะ (Non-Treponemal Test) ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นวิธีที่ไม่ได้ตรวจหาเชื้อแอนติบอดีต่อเชื้อโดยตรง แต่เป็นเพียงการตรวจหาแอนติบอดีที่ร่างกายได้สร้างขึ้นมา โดยแอนติบอดีชนิดนี้จะเรียกว่า Reagin ซึ่งจะสามารถพบได้ในโรคอื่น ๆ ที่เนื้อเยื่อภายในร่างกายได้ถูกทำลาย

– การตรวจแบบใช้ แอนติเจนจำเพาะจากเชื้อ (Treponemal Test) วิธีการตรวจนี้ เป็นการตรวจหา เชื้อแอนติบอดีต่อเชื้อ Treponema Pallidum โดยตรง ซึ่งเป็นแอนติบอดี ที่ร่างกายได้สร้างขึ้นมา หลังจากติดเชื้อแล้ว โดยชุดตรวจที่ใช้ ในการตรวจแบบจำเพาะ ก็จะมีหลักในการตรวจ ที่แตกต่างกัน

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน วิธีการตรวจหาการติดเชื้อ Treponema Pallidum ก็ได้มีการพัฒนา น้ำยาที่ใช้ในการตรวจ ให้มีความไว และความจำเพาะสูงมากยิ่งขึ้น โดยจะใช้แอนติเจน แบบจำเพาะจากเชื้อ ซึ่งจะใช้หลักการ ตรวจที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ วิธีการตรวจแบบ Rapid Test ก็มีอีกรูปแบบหนึ่ง คือ Immuno Chromatographic Strip (ICS) โดยแอนติบอดีต่อเชื้อ Treponema pallidum ซึ่งจะทำปฏิกิริยา หรือจับกัน เราอาจะเรียกว่า Anti TP คือ Antibody Treponema Pallidum


นอกจากนี้ ในปัจจุบันก็ได้ มีการพัฒนา การทดสอบด้วย เครื่องวิเคราะห์อัตโนมัติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เพื่อช่วยให้ แพทย์วินิจฉัยโรค ได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ ต่อเชื้อซิฟิลิส หากพบว่ามีการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็น การตรวจด้วยวิธีไหน ก็ตาม ก็ควรปรึกษาแพทย์ เฉพาะทางเพื่อ เข้ารับการรักษา และติดตาม การรักษาโรค

ทั้งนี้ การป้องกันโรค ที่ดีที่สุด ก็คือ การสวมใส่ ถุงยางอนามัย ทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ และที่สำคัญ ไม่ควรเปลี่ยน คู่นอนบ่อย อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่กำลัง มีความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อ

ในปัจจุบัน ก็ได้มีชุดตรวจซิฟิลิส ด้วยตนเอง ที่สามารถ ทำการตรวจ ได้เองที่บ้าน มีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน วางจำน่ายเพื่อ เป็นทางออก ให้สำหรับผู้ที่ไม่กล้าเดินทาง ไปตรวจตาม สถานพยาบาล หรือผู้ที่ไม่กล้า เปิดเผยตัวตน โดยชุดตรวจซิฟิลิสด้วยตนเอง จะเป็นการ ตรวจเพื่อคัดกรองเบื้องต้น หากผลตรวจ ที่ได้เป็นบวกหรือลบ ก็ให้เข้ารับการตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อยืนยัน ผลตรวจที่แน่ชัด เพราะหากตรวจเจอเชื้อ ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะได้เข้ารับ การรักษา ให้หายขาดได้

 

]