ซิฟิลิส คือ เอดส์ ? ปัจจุบันนี้หลายคนยังคงตั้งข้อสงสัยกันว่า โรคซิฟิลิส (Syphilis) กับ โรคเอดส์ (AIDS) เป็นโรคเดียวกันหรือไม่

 

โดยโรคซิฟิลิสและโรคเอดส์ นับเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นเดียวกัน แต่ไม่ใช่โรคเดียวกัน

 

โรคซิฟิลิส (Syphilis)  เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง ที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่ชื่อว่า ทรีโพนีมา พัลลิดุม (Treponema Pallidum) และเมื่อร่างกายของเราได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว  เชื้อจะกระจายไปทั่ว ร่างกายตามกระแสเลือด และอาศัยอยู่ภายในร่างกาย และมี อาการแสดง คือ

  • อาการของ โรคซิฟิลิส โดยที่ในระยะแรก จะมีแผลเกิดขึ้นตามอวัยวะเพศ ริมฝีปาก ลิ้น หรือหัวนม ซึ่งตุ่มจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จนแตกเป็นแผล และไม่รู้สึกเจ็บ หากปล่อยไว้เป็นเวลานานโดยไม่ทำการรักษา เชื้ออาจเข้าสู่ต่อมน้ำเหลือง บริเวณขาหนีบ และหลังจากนั้น อาการก็จะค่อย ๆ หายไปเอง จนทำให้ผู้ป่วยคิดว่า ตนเองไม่ได้เป็นอะไร และหากปล่อยไว้นาน จนเริ่มเข้าสู่ระยะที่สอง หรือสาม อาการอาจรุนแรงมากขึ้น จะถึงขั้นทำให้เสียชีวิตลงได้

 

โรคเอดส์ (AIDS) จะเป็นภาวะการป่วย ในขั้นสุดท้าย ของการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ซึ่งหากร่างกายของเราได้รับเชื้อเข้าไปแล้ว เชื้อจะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างมีระบบภูมิคุ้มกัน ที่บกพร่อง จนไม่สามารถ ต้านทานต่อเชื้อโรคอื่น ๆ ที่เข้าไปสู่ร่างกายได้ และส่งผลให้ร่างกายของผู้ป่วยนั้น เสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย และอาจนำไปสู่ การเสียชีวิตลงในที่สุด

  • อาการของโรคเอดส์ ปอดอักเสบ สูญเสียความทรงจำ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง ตามอวัยวยะเพศ ทวารหนัก ริมฝีปาก และอาการบวม ที่ต่อมน้ำเหลือง หรือรักแร้ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ยังไม่มีวิธีการไหน ที่จะสามารถรักษาโรคเอดส์ ให้หายขาดได้ มีเพียงแต่ยาที่ช่วย ในการชะลอการพัฒนาโรค และลดอัตราการเสียชีวิตลง ด้วยโรคเอดส์ก็เท่านั้นเอง

 

ซิฟิลิส คือ เอดส์ ไม่ถูกต้อง ไม่เป็นความจริง เอดส์กับซิฟิลิสนั้นเป็นคนละโรคกัน จะมีความแตกต่างกันตรงที่

โรคซิฟิลิสจะเป็นโรค ที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ และเกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง หากผู้ป่วยยังมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ก็สามารถกลับมาเป็นใหม่ได้อีกครั้ง

แต่โรคเอดส์ เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ในปัจจุบันมีเพียงแต่ยาที่ช่วยในการชะลอการพัฒนาโรค และลดอัตราเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเท่านั้น และทำให้สามารถใช้ชีวิตดังคนปกติได้ โดยหากทานยาต่อเนื่อง ทุก ๆ วัน ก็จะช่วยให้ไม่มีอาการแสดง และอายุขัยยืนยาวเท่าเดิม

 

ดังนั้น หากใครที่คิดว่าตนเองมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะ โรคซิฟิลิส หรือโรคเอดส์ การเข้ารับการตรวจ เป็นทางเดียวที่จะทำให้ คุณคลายความกังวลใจได้  ซึ่งในปัจจุบันนี้ การตรวจหาเชื้อซิฟิลิส หรือเอดส์นั้น สามารถเข้ารับการตรวจได้ตามโรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน และคลินิกนิรนาม โดยจะมีบริการตรวจ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และหากเป็นการตรวจเอชไอวี หรือเอดส์ ที่โรงพยาบาลรัฐมีบริการตรวจได้ฟรีถึงปีละ 2 ครั้ง

 

นอกจากนี้ หากท่านไม่สะดวกใจที่จะไปยังสถานพยาบาล ดังที่กล่าวมาเลยทันที เพราะไม่มั่นใจว่า เสี่ยงติดเชื้อมาจริง หรือเปล่า เราขอแนะนำ ชุดตรวจHIV ด้วยตนเอง และ ชุดตรวจซิฟิลิส ด้วยตนเอง ที่สามารถหาซื้อมาตรวจคัดกรองเบื้องต้น ด้วยตนเองได้ โดยจะแสดงแค่ผลบวกหรือลบ เท่านั้น

 

โดยชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง และชุดตรวจซิฟิลิส ที่เลือกใช้นั้น จะต้องมีความปลอดภัย แม่นยำ และได้มาตรฐาน (มีเลขอย.ไทย) สามารถรู้ผลได้ใน 15-20 นาที

 

หากเราสามาร ตรวจคัดกรอง HIV หรือตรวจ Syphilis ด้วยตนเองได้ จะช่วยให้สามารถรู้ผลได้เร็ว และหากตรวจพบเชื้อตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็ยังมีโอกาส ในการเข้ารับการรักษาหาย และรับยาต้านอย่างเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้วิธีการตรวจนี้ จะมีความรวดเร็ว ในการตรวจ แต่ก็เป็นเพียงการตรวจคัดกรอง เบื้องต้นเท่านั้น ควรเลือกตรวจใน ระยะเวลาเสี่ยงที่เหมาะสม กับประเภทชุดตรวจ ที่เลือกใช้ เพื่อให้ได้ผลที่ถูกต้อง และแม่นยำจริง ๆ และหากผลออกมาแล้ว ยังไม่มั่นใจ ก็สามารถตรวจซ้ำได้ หรือหากเป็นผู้ ที่มีโอกาสได้รับความเสี่ยง อยู่เป็นประจำก็สามารถตรวจซ้ำ ได้ทุก ๆ 3 เดือน หรือ ทุก ๆ เดือน